วันนี้เราจะพาคุณไปรู้จักกับวิธีเพาะเลี้ยงปลาทองกันให้มากขึ้น ไม่ว่าคุณจะเป็นมือใหม่ที่อยากลองเลี้ยงปลาทอง หรืออยากลองเพาะเลี้ยงปลาทองเพื่อทำเป็นอาชีพ ก็สามารถดูบทความนี้ได้เช่นเดียวกัน… ปลาทองเป็นสัตว์เลี้ยงที่เป็นที่นิยมของคนไทยมาเป็นเวลานานแล้ว ถึงแม้ว่าปลาทอง จะไม่ใช่สัตว์เลี้ยงที่เราสามารถกอดเล่นได้ พาไปเดินเล่น หรือพาไปทำกิจกรรมต่าง ๆ ด้วยกันได้ เหมือนกับสุนัข หรือแมว แต่เจ้าปลาทองก็เป็นสัตว์เลี้ยงที่มีรูปร่างหน้าตาน่ารัก สีสวยน่ามอง ทำให้บ้านของคุณดูมีสีสันมากขึ้น และที่สำคัญยังเป็นสัตว์เลี้ยงที่เหมาะกับคนที่มีเวลาน้อยอีกด้วย
วิธีเพาะเลี้ยงปลาทองแบบสรุป ให้คุณเข้าใจง่าย
แน่นอนว่าวิธีเพาะเลี้ยงปลาทองนั้นไม่มีสูตรสำเร็จ และไม่มีอะไรรับประกันได้ว่า การทำครั้งแรกจะประสบผลสำเร็จในทันที เพราะแต่ละวิธีนั้นจะสำเร็จได้ ต้องเกิดจากการเรียนรู้มาอย่างดี เอาใจใส่อย่างสม่ำเสมอ และที่สำคัญก็ต้องขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น สภาพแวดล้อม อุณหภูมิ ความแออัด หรือการเกิดโรคในบ่อปลา เป็นต้น สำหรับวันนี้เราได้นำเช็กลิสต์วิธีเพาะเลี้ยงปลาทอง ในแบบฉบับเข้าใจง่าย มาให้คุณได้ลองไปทำตามกันเป็นข้อ ๆ รับรองว่าจะเป็นอีกหนึ่งสูตรสำเร็จ ที่จะช่วยให้การเพาะเลี้ยงปลาทองของคุณประสบความสำเร็จได้รวดเร็วยิ่งขึ้น
- ให้จัดบ่อปลาไว้สำหรับการเพาะเลี้ยงโดยเฉพาะ ควรเป็นบ่อซีเมนต์ ขนาดอย่างน้อย 1 ตารางเมตร และลึกอย่างน้อย 20 เซนติเมตร จากนั้นให้ทำความสะอาด จัดเตรียมระบบออกซิเจน และฆ่าเชื้อให้เรียบร้อย
- ให้เตรียมอุปกรณ์สำหรับการวางไข่เอาไว้ในบ่อปลาด้วย เพราะการวางไข่ของปลาทอง เป็นการวางไข่ประเภทไข่ติด จึงควรใช้สาหร่ายน้ำ เชือกปอ หรือเชือกพลาสติกที่มีเส้นเล็ก ๆ วางไว้ เพื่อให้ไข่ปลาเกาะสำหรับเพาะพันธุ์ได้
- ใช้ปลาทองตัวเมีย 1 ตัว ต่อตัวผู้ 2 ตัว ในการเพาะพันธุ์ เนื่องจากเป็นการช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของน้ำเชื้อจากตัวผู้ ให้เพียงพอกับไข่ของปลาทองตัวเมีย
- แนะนำให้ปล่อยปลา 1 คู่ ต่อ 1 บ่อปลาเท่านั้น เพื่อป้องกันไม่ให้ปลาตัวอื่น ๆ มากินไข่ของแม่ปลาทองที่เพิ่งปล่อยออกมา และป้องกันไม่ให้พื้นที่ในการเพาะเลี้ยงแออัดอีกด้วย เพราะการรีดไข่ปลาทอง 1 ครั้ง จะได้ลูกปลาไม่ต่ำกว่า 2,000 ตัวเลยทีเดียว
- เมื่อแม่ปลาทองวางไข่แล้ว ให้ย้ายไข่ที่เกาะอยู่ตามอุปกรณ์สำหรับวางไข่ ไปเตรียมฟักตัวในบ่อใหม่ ที่มีน้ำคุณภาพดี ส่วนไข่ที่ร่วงอยู่ตามพื้น ให้เอาไว้ในบ่อเดิม แต่ต้องเปลี่ยนน้ำให้สะอาด และให้ออกซิเจนอย่างเพียงพอ ที่สำคัญควรรักษาอุณหภูมิน้ำให้คงที่ ประมาณ 25 – 28 องศาเซลเซียส
- เมื่อผ่านไปประมาณ 2 วัน ไข่จะฟักตัวเสร็จ ลูกปลาทองจะมีถุงไข่แดง หรือถุงอาหารติดอยู่ที่หน้าท้อง จึงไม่จำเป็นต้องให้อาหาร
- เมื่อผ่านไป 3 – 4 วัน ถุงไข่แดงจะหมดไปโดยธรรมชาติ คุณก็สามารถเริ่มให้อาหารขนาดเล็กตามลำดับได้ เช่น ไรน้ำ อาหารผง หรือ อาหารสำเร็จรูป เป็นต้น
- ย้ายลูกปลาไปยังบ่ออนุบาล เพื่อการเจริญเติบโตที่ดีขึ้น ควรใช้บ่อซีเมนต์ ขนาด 5 – 10 ตารางเมตร และมีความลึก 40 – 50 เซนติเมตร และควรทำระบบระบายน้ำ เพื่อช่วยระบายของเสียจากลูกปลาทองทุกวันด้วย
- อาหารที่ดีต่อการเจริญเติบโตของลูกปลาทอง คือ ไข่ต้มสุก ให้นำแค่ส่วนของไข่แดงมาบดให้ละเอียด และให้ลูกปลาทองกิน จะช่วยให้ลูกปลาทองชินกับการกินอาหารใหม่ ๆ ช่วยให้กินเก่งขึ้น และยังทำให้ลูกปลาโตเร็ว แข็งแรงขึ้นอีกด้วย
- ควรทำความสะอาดบ่ออนุบาลทุกวัน เพราะอาหารที่ให้ลูกปลาทองกิน จะตกตะกอน กลายเป็นสิ่งสกปรกที่ส่งผลกระทบกับการเจริญเติบโต และสุขภาพของลูกปลาทองได้
เมื่อคุณทำการอนุบาลลูกปลาทองตามวิธีเพาะเลี้ยงปลาทองเป็นอย่างดี ด้วยการให้อาหารตามลำดับของการเจริญเติบโต จัดทำระบบระบายน้ำ ระบบออกซิเจนอย่างเพียงพอ เปลี่ยนน้ำและทำความสะอาดบ่อปลาทุกวัน รวมไปถึงการจัดวางสภาพแวดล้อมให้มีอุณหภูมิที่เหมาะสม ไม่แออัดจนเกินไป ลูกปลาทองก็จะค่อย ๆ เจริญเติบโตอย่างสมบูรณ์ และจะมีขนาดลำตัว 1 – 2 นิ้ว ภายในเวลา 2 เดือน
หวังว่าวิธีเพาะเลี้ยงปลาทองที่เรานำมาฝากในวันนี้ จะทำให้คุณได้แบบสรุปที่เข้าใจง่าย และนำไปทำตามได้ไม่ยาก เพราะเราเชื่อว่าคนที่หลงรักการเลี้ยงปลาทองทุกคน ต้องอยากเห็นเจ้าสัตว์เลี้ยงแสนรักของตัวเองออกลูกออกหลานมาให้เห็นอีกหลายตัว หากคุณยังเป็นมือใหม่ เราขอแนะนำให้ใช้พ่อพันธุ์ แม่พันธุ์ สายพันธุ์เดียวกันไปก่อน เมื่อทำการเรียนรู้ และเชี่ยวชาญมากขึ้นแล้ว ก็ค่อยนำพ่อพันธุ์ แม่พันธุ์ ที่ต่างสายพันธุ์มาผสมกัน เพื่อให้ได้ลูกปลาทองที่ออกมามีฟอร์มสวย และสีสันที่สดตามต้องการ
