ปลาทองฮอลันดา

ปลาทองฮอลันดา เป็นยังไง เลี้ยงยากไหม?

ปลาทองฮอลันดา เป็นปลาทองสายพันธุ์หนึ่ง ที่ถูกพัฒนาสายพันธุ์โดยชาวญี่ปุ่นมาอย่างยาวนานแล้ว ตั้งแต่ราว ๆ ช่วงศตวรรษที่ 18 มีการสันนิษฐานว่า เริ่มมีการนำเข้ามาในในประเทศไทย ตั้งแต่ช่วงอาณาจักรกรุงรัตนโกสินทร์ เรียกได้ว่าเป็นสายพันธุ์ยอดนิยม ที่เราทุกคนต้องเคยเห็นผ่านตากันมาแล้ว และที่สำคัญปลาทองสายพันธุ์ฮอลันดายังมีลักษณะเด่นที่สวยงาม ทำให้เป็นปลาทองสายพันธุ์ที่หลาย ๆ คนตกหลุมรัก รวมไปถึงเหล่าคนรักปลาทอง หรือนักสะสมปลาทอง ต้องมีสายพันธุ์นี้อยู่ที่บ้านอย่างแน่นอน วันนี้เราจึงอยากพาคุณไปทำความรู้จักกับปลาทองสายพันธุ์นี้กันให้มากขึ้น

ปลาทองฮอลันดา สายพันธุ์ยอดนิยม ทำความรู้จักแล้วต้องอยากเลี้ยงแน่นอน

ปลาทองฮอลันดา สายพันธุ์ยอดนิยม

ปลาทองฮอลันดา เกิดจากการผสมระหว่างสายพันธุ์หัวสิงห์ และสายพันธุ์ริวกิ้น ทำให้ได้ลักษณะพิเศษเฉพาะตัว คือ มีลำตัวกลมดูน่ารัก ส่วนหางและครีบจะยาวดูโดดเด่น เมื่อแหวกว่ายในน้ำจะแผ่ตัวสวย ดูสง่า ได้ลักษณะพิเศษมาจากสายพันธุ์ริวกิ้น และในส่วนหัวจะเป็นก้อนวุ้นกลม ๆ หน้าตาเหมือนสิงโต ซึ่งได้มาจากสายพันธุ์หัวสิงห์นั่นเอง

ในส่วนของสีสันของปลาทองสายพันธุ์นี้ ก็มีให้เลือกเลี้ยงมากมาย เพราะมีการพัฒนาสายพันธุ์อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นสีสุดคลาสสิก อย่างสีส้ม สีเงิน สีขาว สีดำ หรือสีแดง เป็นต้น รวมไปถึงการผสมสี ที่ทำให้เกิดสีที่แปลกใหม่ ที่มีหลากสีในตัวเดียวได้ หรือทำให้มีลักษณะสีแต้ม หรือสีด่าง เป็นต้น

ในปัจจุบันเราสามารถแบ่งประเภทของปลาทองฮอลันดา ได้เป็น 3 ประเภท โดยแบ่งตามโครงสร้างของตัวปลา ซึ่งคุณสามารถเลือกเลี้ยงได้ตามความชอบ และความสะดวกในการจัดพื้นที่สำหรับเลี้ยงได้ ดังนี้

  • ฮอลันดาปักกิ่ง เป็นปลาทองสายพันธุ์ฮอลันดาไซส์เล็กที่สุด โดยขนาดของตัวที่โตเต็มวัย จะอยู่ที่ 5 – 4 นิ้วเท่านั้น มีลักษณะลำตัวอ้วน พุงป่อง และวุ้นที่หัวจะขึ้นฟู ฟอร์มตัวเร็วที่สุด เหมาะกับผู้ที่เริ่มต้นเลี้ยง หรือมีพื้นที่ในการเลี้ยงจำกัด โดยใช้ตู้เลี้ยงขนาดโดยประมาณ 24 – 30 นิ้ว
  • ฮอลันดากลาง เป็นปลาทองสายพันธุ์ฮอลันดาไซส์ขนาดกลาง ขนาดพอเหมาะ ที่เกิดจากการผสมกันระหว่างสายพันธุ์ฮอลันดาปักกิ่ง และฮอลันดายักษ์ เหมาะกับเลี้ยงหลาย ๆ ตัวรวมกันในตู้ ทำให้มองดูสวย ส่วนวุ้นที่หัวจะฟอร์มตัวเร็วในระดับกลาง ซึ่งจะใช้เวลามากกว่าฮอลันดาปักกิ่ง
  • ฮอลันดายักษ์ บอกเลยว่าเป็นปลาทองไซส์ที่น่าตื่นตาตื่นใจสำหรับทุกคนที่ได้เห็น เพราะไซส์ยักษ์นี้ไม่เหมือนไซส์ของปลาทองตัวใหญ่ทั่วไปอย่างแน่นอน เพราะในปัจจุบันมีการพัฒนาสายพันธุ์ให้ได้ไซส์โตเต็มวัยอยู่ที่ประมาณ 8 นิ้วเลยทีเดียว เหมาะกับคนที่มีประสบการณ์ มีความชื่นชอบในการเลี้ยงปลาทองอยู่แล้ว หรือจะมือใหม่ ที่มีเวลาเลี้ยง ก็สามารถเลี้ยงได้เช่นกัน เพราะเป็นสายพันธุ์ที่โตช้า กินเก่ง ต้องการพื้นที่ในการเลี้ยง และวุ้นที่หัวก็จะฟอร์มตัวเต็มที่ช้ากว่าสายพันธุ์อื่น ๆ เช่นกัน แต่ถ้าหากเลี้ยงแล้วสำเร็จ เติบโตอย่างสมบูรณ์ ก็รับรองว่าคุณจะตกหลุมรักเจ้าฮอลันดายักษ์ จนถอนตัวไม่ทันเช่นกัน เพราะความน่ารัก ตัวใหญ่ และจับแล้วเต็มไม้เต็มมือ เหมือนเราได้ทักทายกับสัตว์เลี้ยงได้ทุกวันนั่นเอง

ลักษณะเด่นของปลาทองฮอลันดา เลือกยังไง ที่ฟอร์มสวย ตรงตามเกณฑ์ความสวยงาม …

ปลาทองฮอลันดา มีลักษณะเด่นยังไง

  • ความยาวของหาง ไม่ควรน้อยกว่า 3 ส่วน 4 เท่าของความยาวลำตัว
  • มีครีบและหาง ที่ยาวสวย เป็นเอกลักษณ์ และที่สำคัญต้องดูเวลาที่ปลาทองสายพันธุ์ฮอลันดา แหวกว่ายอยู่ในน้ำ ครีบและหางต้องแผ่ตัวเต็มที่ สยายตัวสวย ฟอร์มตัวสมบูรณ์แบบ ไม่ขาด ไม่บิดงอผิดรูป เคลื่อนไหวไปตามสายน้ำอย่างสง่างาม
  • ลำตัวอ้วนกลม และมีความกว้างของลำตัวที่พอเหมาะ หากมองดูด้านข้างต้องมีความสมดุลทั้งความอ้วน และความยาวของลำตัว

ปลาทองฮอลันดา เลี้ยงไม่ยาก เพียงแค่คุณต้องใส่ใจรายละเอียดต่าง ๆ เหมือนกับการเลี้ยงปลาทองทั่วไป นั่นก็คือ…

  • เลี้ยงปลาทองด้วยน้ำที่ไม่มีคลอรีน และใช้ออกซิเจนในการเลี้ยง โดยการใช้ปั๊มน้ำ หรือน้ำพุ ที่ทำให้น้ำเกิดการไหลเวียนเบา ๆ อยู่ตลอดเวลา
  • ใส่เกลือแกงลงไปในน้ำทุก ๆ สัปดาห์ เพื่อฆ่าเชื้อโรคในน้ำ
  • รักษาอุณหภูมิน้ำให้คงที่อยู่เสมอ อย่าให้อุณหภูมิขึ้นลงบ่อย โดยอุณหภูมิที่เหมาะสมจะอยู่ที่ประมาณ 28 – 35 องศาเซลเซียส
  • ใช้ภาชนะในการเลี้ยงที่มีขนาดเหมาะสม ไม่เล็กจนเกินไป เพราะจะทำให้ปลาทองเกิดความเครียด และส่งผลกับการเจริญเติบโตอย่างเต็มที่ได้
  • ให้อาหารสำหรับปลาทองโดยเฉพาะ โดยให้เป็นเวลา และในปริมาณที่พอดี

เห็นหรือไม่ว่า ปลาทองฮอลันดา มีลักษณะเด่นที่สวยสง่า น่าเลี้ยง มากแค่ไหน อีกทั้งยังเลี้ยงไม่ยากอีกด้วย ปลาทองสายพันธุ์ฮอลันดาเป็นที่นิยมในการเลี้ยงเป็นอย่างมากไปทั่วโลก โดยที่กำลังเป็นกระแสอย่างต่อเนื่อง นั่นก็คือปลาทองฮอลันดายักษ์ ที่หลาย ๆ คนต่างก็แชร์กันว่าเป็นสายพันธุ์ที่น่าสนใจ ตัวใหญ่ และสามารถพัฒนาและขยายพันธุ์เอง ให้มีสีสันและไซส์ที่ต้องการได้อีกด้วย