ในปัจจุบันผู้คนนิยมเลี้ยงปลาทองกันเป็นจำนวนมาก มีปลาทองหลากหลายสายพันธุ์ให้เลือก อีกทั้งผู้เลี้ยงเองก็ต้องคัดเลือกสายพันธุ์ที่ตนเองชื่นชอบ และมีความสามารถในการเลี้ยงดู ปลาทองลูกโป่ง…ปลาทองพันธุ์แปลก ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับนักเลี้ยงปลาที่มองหาสัตว์เลี้ยงคู่ใจตัวใหม่ เราไปดูเรื่องราวของพวกมันกันดีกว่า
เรื่องน่ารู้ที่ไม่ควรพลาดของปลาทองลูกโป่ง
1.มีความแปลกทางด้านสรีระ ปลาทองลูกโป่งเป็นอีกหนึ่งปลาน่ารักน่าเลี้ยงพันธุ์หนึ่งที่มีความแปลกทางด้านสรีระ ทำให้มันดูแปลกแตกต่างไปจากปลาทองสายพันธุ์อื่น เป็นปลาขนาดเล็ก ไม่มีกระโดง มีต้นกำเนิดมาจากประเทศจีนเป็นปลาที่มีสีสันหลากหลายมาก ไม่ว่าจะเป็นแดง ขาว เหลือง ส้ม หรือแม้กระทั่งสีดำ ผู้เชี่ยวชาญทางด้านปลาต่างกล่าวกันว่าปลาทองชนิดนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ อาจจะเกิดมาจากการดัดแปลงสายพันธุ์จนทำให้เกิดความแตกต่างแต่คงซึ่งความน่ารักน่าเอ็นดูอย่างที่เราเห็น ในประเทศไทยเรียกปลาชนิดนี้ว่าปลาทองตาลูกโป่ง ส่วนคนญี่ปุ่นได้นำสายพันธุ์นี้ไปพัฒนาต่อ และเรียกมันว่า ซุอิโฮกัน
2. มีถุงใต้ตาป่องเหมือนลูกโป่ง เป็นปลาทองที่มีความพิเศษตรงที่บริเวณถุงใต้ตาจะป่องออกมาเหมือนลูกโป่งลูกบาง ๆ ที่พร้อมจะแตกอยู่เสมอ ภายในประกอบไปด้วยเส้นเลือดฝอยมากมาย ซึ่งเจ้าลูกโป่งที่โปนปูนออกมานี้ทำให้เจ้าปลาทองน้อยต้องเหลือบตาขึ้นด้านบนตลอดเวลาที่ว่ายน้ำ ถือเป็นอุปสรรคสำคัญที่ทำให้มันว่ายน้ำได้ช้ากว่าปลาทองพันธุ์อื่นๆ เวลาว่ายน้ำลูกโป่งทั้งสองข้างของมันจะลอยไปลอยมาอยู่บนผิวน้ำ โดยลูกโป่งทั้งสองข้างนี้จะเริ่มโตขึ้นๆ และสามารถเห็นได้ชัดตอนที่เจ้าปลาทองมีอายุประมาณ 6-8 เดือน
3. ลูกโป่งทั้งสองข้างน่ารักแต่ชอบสร้างปัญหา ถึงแม้ว่าจะเป็นความแปลกที่ทำให้ปลาทองลูกโป่งดูมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวก็ตาม แต่ลูกโป่งทั้งสองข้างนี้ก็สร้างปัญหาให้กับมันเป็นอย่างมาก เพราะมันชอบเกิดอาการช้ำ หรือตกเลือดอยู่บ่อย ๆ ซึ่งถ้าดูแลไม่ดีอาจทำให้น้องตายได้ หากน้องปลาเกิดอาการดังที่กล่าวมา วิธีการรักษาดูแลที่ดีที่สุด คือให้เราเอาเข็มเจาะเลือดที่คลั่งอยู่ด้านในออก เหมือนเวลาที่เราโดนเสี้ยนตำมือ หรือตอนที่มีหนองนั่นแหละ เมื่อเจาะเอาเลือดที่คลั่งออกหมดแล้วก็แช่ด้วยยาเหลือง เพื่อฆ่าเชื้อ ทำอย่างนี้ประมาณ 4-5 วัน เจ้าปลาลูกโป่งก็จะกลับมาแข็งแรงดังเดิม นอกจากนี้เจ้าของควรระวังไม่ให้ถุงใต้ตาของน้องปลาแตกด้วยนะ เพราะแม้ว่ามันสามารถงอกขึ้นมาใหม่ได้ แต่ก็มีขนาดไม่เท่ากันอยู่ดี คิดดูเอาเองก็แล้วกันว่าน้องปลาจะลำบากขนาดไหน เมื่อลูกโป่งสองข้างไม่เท่ากัน แถมลูกโป่งลูกใหม่ที่งอกมานั้นก็จะมีรูปร่างที่ต่างไปจากเดิมด้วยนะ ควรระวังไม่ให้มันแตกบ่อยๆ เพราะน้องอาจติดเชื้อได้
4. ไม่ควรเลี้ยงรวมกับปลาอื่น ๆ การเลี้ยงปลาทองลูกโป่ง ถึงแม้ว่าจะสามารถเลี้ยงพวกมันรวมกับปลาทองชนิดอื่น ๆ ได้ แต่เนื่องจากพวกมันว่ายน้ำช้ากว่าปลาทองตัวอื่น ๆ ทำให้มันอาจเสียเปรียบในเรื่องของการกินอาหาร หรือเรื่องอื่น ๆ ได้ ทางที่ดีควรเลี้ยงร่วมกับปลาทองสายพันธุ์ที่มีวิถีชีวิตใกล้เคียงกันอย่างปลาตาโปน ตากลับ หรือว่าพวกเกล็ดแก้วจะดีกว่า และที่สำคัญไม่ควรเลี้ยงปลาลูกโป่งร่วมกับปลาสายพันธุ์ดุร้าย หรือเลี้ยงในสิ่งแวดล้อมที่มีหนามแหลม ดังนั้นใครที่อยากเลี้ยงปลาชนิดนี้ ควรระมัดระวังอ่างปลาของน้องปลาให้ดี ไม่ควรให้มีสิ่งอันตรายใด ๆ ที่จะมีผลต่อการดำรงชีวิตของน้องปลา อย่างเช่น กรวด หิน หรืออุปกรณ์มีคม ปั๊มน้ำก็สำคัญนะ เพราะลูกโป่งของน้องอาจเข้าไปติดอยู่ในนั้นได้ ควรทำอ่างน้องให้โล่ง ๆ เข้าไว้จะดีกว่า
การเลี้ยงปลาไม่ว่าจะเป็นปลาอะไรก็ตาม ผู้เลี้ยงควรศึกษาถึงอุปนิสัย รวมไปถึงธรรมชาติการใช้ชีวิตของพวกมันให้ละเอียดก่อนเลี้ยงเสมอ โดยเฉพาะปลาทองลูกโป่ง การทำความเข้าใจวิถีชีวิตธรรมชาติตามสายพันธุ์นั้นจะเป็นการช่วยให้ปลาแสนรักของเรามีชีวิตที่ดี อยู่กับเราไปได้นานขึ้นอีก เพราะเชื่อว่าเราเองก็ต้องผูกพันกับเขา อยากให้เขาอยู่กับเราให้นานที่สุดเป็นแน่
