ปลาทองรักเร่

ปลาทองรักเร่ ปลาทองตากลมโต ทั้งน่ารักและน่าเอ็นดู!

ปลาทองรักเร่ หรือเจ้าปลาตาโปนที่เราเห็นกันอย่างคุ้นตา ด้วยรูปร่างหน้าตาที่น่ารัก น่าเอ็นดู แถมยังเลี้ยงไม่ยากอีกด้วย จึงกลายเป็นปลาทองสายพันธุ์หนึ่งที่ได้รับความนิยมในการเลี้ยงมาอย่างยาวนาน และต่อเนื่องขึ้นเรื่อย ๆ อีกทั้งยังเป็นสัตว์เลี้ยงที่ครองใจทั้งเด็ก ๆ และผู้ใหญ่ที่ชอบเลี้ยงปลาทองด้วย วันนี้เราจึงอยากมาเพิ่มกระแสความนิยมให้กับปลาทองสายพันธุ์นี้ให้มากยิ่งขึ้น ด้วยการพาคุณไปทำความรู้จักกับปลาทองสายพันธุ์รักเร่ ว่ามีประวัติที่มายังไง เลี้ยงยากไหม หรือมีสีสันอะไรที่น่าสนใจบ้าง ที่คุณอาจยังไม่เคยเห็น เป็นต้น

ปลาทองรักเร่ เป็นปลาทองที่มีต้นกำเนิดสายพันธุ์มาอย่างยาวนาน ตั้งแต่ช่วงทศวรรษที่ 15 -16 หลังจากนั้นได้ถูกพัฒนาสายพันธุ์ให้มีความสวยงาม และมีความแข็งแรงโดยประเทศญี่ปุ่น โดยชาวญี่ปุ่นจะเรียกชื่อปลาทองสายพันธุ์นี้ว่า “โรมะจิ” ส่วนในภาษาอังกฤษจะเรียกสายพันธุ์เฉพาะนี้ว่า “Black moor”  เพราะเดิมทีปลาทองสายพันธุ์รักเร่ มักจะมีแค่สีดำสนิทเท่านั้น ซึ่งเป็นสีที่เราทุกคนคุ้นตากันอย่างดี

สำหรับชื่อสายพันธุ์ในภาษาไทย มีคำบอกเล่าต่อกันมาว่า เจ้าของร้านเล่ห์ประดิษฐ์ ที่เป็นผู้ผลิตไม้แบดมินตันนั้น เป็นผู้นำเข้าปลาทองสายพันธุ์นี้เข้ามาเลี้ยงเป็นคนแรก จนเกิดการเผยแพร่เป็นที่รู้จักกันในประเทศไทย จึงเรียกปลาทองสายพันธุ์นี้ว่า พันธุ์เล่ห์ บ้างก็เรียกว่า ร้านเล่ห์ ต่อจากนั้นก็เรียกต่อ ๆ กันมาจนแผลงคำกลายเป็นคำว่า รักเร่ ในที่สุด

ปลารักเร่

ลักษณะเฉพาะของปลาทองรักเร่ ที่คุณเห็นแล้วต้องตกหลุมรัก

  • มีดวงตาที่กลมโต และโปนยื่นออกมาทางด้านหน้าเท่า ๆ กันทั้งสองข้างอย่างเห็นได้ชัด จนทำให้ดูเหมือนกับว่า เจ้าปลาทองสายพันธุ์รักเร่นั้น มีกล้องส่องทางไกลติดอยู่ที่ตาตลอดเวลานั่นเอง
  • ลำตัวอ้วนกลม หลังโค้งสูง ดูจ้ำม่ำ
  • มีครีบและหางที่ยาวสวยกำลังพอดี ส่วนครีบจะมีความยาวตั้งแต่ช่วงกลางหลัง ไปจนถึงปลายหาง เมื่อแหวกว่ายในสายน้ำ จะทำให้ดูสวยสง่า
  • ในปัจจุบันมีการพัฒนาสายพันธุ์ให้มีหลากสีสันมากขึ้น ทำให้มีความสวยงาม และดูน่ารักต่างกันไป เช่น รักเร่แพนด้า,  รักเร่ทับทิม,  รักเร่สีขาว – แดง หรือสีขาว – ส้ม, รักเร่บัตเตอร์ฟลาย

วิธีการเลี้ยงปลาทองรักเร่

ปลาทองรักเร่ เลี้ยงยังไง

ไม่ต่างกับการเลี้ยงปลาทองสายพันธุ์อื่นมากเท่าไหร่ ไม่ว่าจะเป็นการเตรียมน้ำ การเปลี่ยนน้ำ การให้อาหาร หรือภาชนะที่ใช้เลี้ยง เป็นต้น แต่สำหรับสายพันธุ์รักเร่นี้ มีข้อควรระวังเพียงไม่กี่ข้อที่คุณต้องรู้ก่อนเลี้ยง เพราะด้วยความที่ปลาทองสายพันธุ์นี้ มีความพิเศษเฉพาะที่ดวงตา จึงทำให้ต้องใส่ใจเป็นพิเศษ เพื่อช่วยรักษาเอกลักษณ์เฉพาะตัวของเจ้าสัตว์เลี้ยงแสนรักของคุณ ดังนี้

  • ควรใช้ออกซิเจนในน้ำที่มีการไหลเวียนไม่แรงจนเกินไป ไม่ว่าจะเป็นการใช้ออกซิเจนปั๊มน้ำ น้ำพุ หรือน้ำตกเล็ก ๆ ในภาชนะเลี้ยงปลาทอง ให้มีการหมุนเวียนของน้ำในลักษณะเบาเท่านั้น เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบกับบริเวณดวงตาของเจ้าปลาทองสายพันธุ์นี้นั่นเอง
  • ควรใช้ภาชนะเลี้ยงที่มีขอบลักษณะป้านออก เพื่อลดความเสี่ยงที่เจ้าปลาทองรักเร่จะว่ายไปชนขอบภาชนะ บอกเลยว่ามือใหม่หลายคนที่ไม่รู้ข้อควรระวังข้อนี้ ใช้ภาชนะที่มีขอบทรงแคบเลี้ยง แล้วส่งผลให้ปลาทองสายพันธุ์รักเร่ตาบอดมาเยอะแล้ว เนื่องจากบริเวณดวงตาจะมีความเปราะบางมากกว่าสายพันธุ์อื่นนั่นเอง
  • ควรใช้ภาชนะเลี้ยงที่มีความใหญ่ เหมาะสมกับจำนวนปลาด้วย โดยทั่วไปแล้วตู้เลี้ยงปลาขนาด 24 นิ้ว ควรเลี้ยงปลาทองได้ไม่เกิน 3 ตัว เพราะถ้าหากคุณเลี้ยงปลาทองสายพันธุ์รักเร่แล้ว ทำให้สภาพแวดล้อมแออัดจนเกินไป จะทำให้ส่งผลกระทบกับการเจริญเติบโตของปลาได้ โดยเฉพาะบริเวณดวงตา ที่จะค่อย ๆ ใช้เวลาในการฟอร์มตัวให้สวย และสมบูรณ์แบบ

ได้ค้นหาตัวตนที่น่ารักของเจ้าปลาทองรักเร่ ปลาทองสายพันธุ์ที่มีลักษณะพิเศษที่ดวงตากลมโต และโปนกันไปแล้ว เชื่อว่าคุณเองจะต้องอยากเลี้ยงกันมากแน่ ๆ หากเลือกสีสันที่ชอบได้แล้ว ก็อย่าลืมข้อควรระวังทั้ง 3 ข้อ ที่เราได้บอกไป เพียงเท่านี้ คุณก็จะได้เลี้ยงสัตว์เลี้ยงแสนน่ารัก น่าเอ็นดู ที่เติบโตอย่างสมบูรณ์แบบ และมีฟอร์มสวยตามต้องการแล้ว