ปลาคราฟกับฮวงจุ้ยมงคล

ปลาคราฟมงคล กับฮวงจุ้ย ช่วยหนุนดวง และเสริมบารมี

ปลาคราฟมงคล หากใครสักคนเริ่มมีความคิดว่า “ต้องการเลี้ยงปลาคราฟ” คงปฏิเสธไม่ได้ว่าในความคิดนั้น จะต้องมีเรื่องของฮวงจุ้ยควบคู่ไปด้วย ฮวงจุ้ยคือศาสตร์โบราณแขนงหนึ่งของจีน ที่นำความสมดุลของพลังงานทางธรรมชาติมาสร้างเป็นองค์ประกอบแวดล้อมมนุษย์ เมื่อมีพลังงานที่ดี มีความสมดุลมาอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม จะส่งผลให้เกิดความเป็นมงคลในพื้นที่ มนุษย์ที่อาศัยอยู่ก็จะได้รับความเจริญรุ่งเรืองไปด้วย ส่วนปลาคราฟ กลายเป็นสัญลักษณ์มงคลคู่กับการจัดตำแหน่งฮวงจุ้ย เพราะเป็นปลาที่มีตำนานเล่าขานถึงความเพียรพยายามในการว่ายทวนน้ำของพวกมัน อีกทั้งบางตำนานกล่าวว่า ความพยายามของมันนี้เองที่ทำให้มันได้กลายเป็นมังกรในที่สุด จึงไม่น่าแปลกใจว่าเพราะเหตุใดปลาคราฟจึงกลายเป็นปลามงคลที่นิยมเลี้ยงเพื่อเสริมบารมี

เหตุใดการเลี้ยง ปลาคราฟมงคล จึงเกี่ยวข้องกับฮวงจุ้ย

ภาพจาก http://www.xn--82c8aa9boupa3bcx4lsei.com

                ในความจริงแล้วไม่เฉพาะการเลี้ยงปลาคราฟเท่านั้นที่เกี่ยวข้องกับฮวงจุ้ย สัตว์เลี้ยงทุกชนิดที่จะนำเข้าบ้านเกี่ยวข้องกับฮวงจุ้ยทั้งหมด ไม่ว่าจะสุนัข แมว และนก เพราะสัตว์คือสิ่งมีชีวิต ที่มีพลังงานชีวิตสื่อถึงธาตุไฟอยู่ในตัว เราจึงได้พบเห็นศาสตร์แห่งการเลี้ยงสัตว์กันอยู่บ่อย ๆ ว่าควรจะเลี้ยงกี่ตัว สีของพวกมันควรเป็นสีอะไร หรือแม้แต่ลักษณะที่เป็นมงคลของพวกมันควรเป็นอย่างไร ส่วนปลาคราฟนั้นเกี่ยวข้องกับฮวงจุ้ยทางด้านใดอีกบ้าง

  • หากจะเลี้ยงต้องขุด ปลาคราฟเป็นปลาที่จะมีลำตัวใหญ่ตามขนาดของสถานที่เลี้ยง หมายความว่าหากบ่อหรือตู้ที่เลี้ยงมีขนาดเล็ก และมีปลาอยู่รวมกันหลายตัว พวกมันจะไม่เติบโต ถือว่าผิดฮวงจุ้ย สื่อถึงความอึดอัด ไม่เจริญเติบโต อีกทั้งการเลี้ยงจำเป็นต้องมีการขุดพื้นที่เพื่อทำเป็นบ่อ หรือหากจะนำมาบ่อซีเมนต์มาวางในพื้นที่ ก็ถือว่ามีการเปลี่ยนฮวงจุ้ยเช่นกัน ดังนั้นไม่ว่าจะขุดบ่อ หรือนำบ่อสำเร็จรูปไปวาง ล้วนเกี่ยวข้องมีผลกระทบต่อฮวงจุ้ยทั้งหมด
  • ปลาคราฟกับธาตุน้ำ ดังที่ได้กล่าวไปแล้วว่า ปลาหรือสัตว์ต่าง ๆ มีพลังงานชีวิตที่เป็นธาตุไฟอยู่ในตัว ปลาคราฟต้องอยู่ในน้ำ ซึ่งธาตุน้ำสื่อถึงการดูดทรัพย์ เรียกทรัพย์ และมีพลังในการสะท้อนพลังงานที่ไม่ดี ส่วนธาตุไฟในตัวปลาสื่อถึงเรื่องเงินทอง โชคลาภ ความสำเร็จโดยตรง ดังนั้นเมื่อคิดจะนำปลาและน้ำมาอยู่ด้วยกัน จะต้องสร้างให้เกิดความสมดุลระหว่างธาตุน้ำและธาตุไฟ ไม่เช่นนั้นจะเป็นขัดลาภกันเอง เช่น จำนวนปลาในน้ำจะต้องสมดุลกัน ไม่เลี้ยงปลาจำนวนมากเกินไปหากบ่อมีขนาดเล็ก และไม่น้อยเกินไปหากมีบ่อขนาดใหญ่ ธาตุน้ำและไฟจึงสมดุล
  • ปลาคราฟกับธาตุลม เมื่อได้จำนวนปลาธาตุไฟ และขนาดน้ำในบ่อธาตุน้ำ ที่เหมาะสมแล้ว ต่อมาคือธาตุลม หรือออกซิเจนในน้ำ ควรจะใช้ระบบกรองน้ำ และออกซิเจนที่มีขนาดเหมาะสมกับจำนวนปลาคราฟในบ่อ เนื่องจากปลาพวกนี้มีนิสัยชอบว่ายทวนน้ำ ทำให้พวกมันต้องใช้ออกซิเจนสูง สังเกตได้ว่าหากบ่อใดที่ใช้ออกซิเจนน้อยเกินไป ระบบกรองน้ำไม่ดี ทำให้น้ำขุ่น ปลามักจะกระโดดออกมาตายนอกบ่อ ซึ่งไม่ดีสำหรับฮวงจุ้ยแน่นอน เพราะเมื่อธาตุลมไม่สมดุล เงินทองในบ้านจะเริ่มขาดมือ ไม่ไหลเวียน อีกทั้งความสกปรกของน้ำ จะทำให้คนในบ้านเจ็บป่วยบ่อย ๆ

เลี้ยงปลาคราฟอย่างไร ให้เสริม มงคง และมีพลังหนุนดวง และเสริมบารมี

ภาพจาก http://www.lovebettafish.com

                ปลาคราฟได้รับสมญานามว่า “เทพเจ้าแห่งปลาเลี้ยงของโลก” เนื่องจากลักษณะที่สวยงาม และลีลาท่าแหวกว่ายที่นุ่มนวลแต่ทรงพลัง เต็มไปด้วยคุณลักษณะที่เป็นมงคล ทำให้ปลาคราฟได้รับความนิยมเลี้ยงไปทั่วโลก แต่สำหรับชาวเอเชียแล้วการเลี้ยงปลาคราฟยังมีรายละเอียดที่ซ่อนเร้นมากกว่าการได้เลี้ยงปลาสวยงาม นั่นคือการเลี้ยงเพื่อใช้คุณลักษณะของปลาในด้านความเชื่อเกี่ยวกับความเป็นสิริมงคล หนุนดวง และเสริมบารมี

  • ทิศมงคล ชาวจีนเชื่อว่าปลาคือสมบัติของท้องทะเล สื่อถึงความอุดมสมบูรณ์ หากเลี้ยงปลาคราฟในตู้ ควรวางตู้ปลาให้อยู่ใกล้กับประตูใหญ่ของบ้าน และตู้ปลาควรมีรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า เป็นสัญลักษณ์ของธาตุไม้ ที่สื่อความมั่นคง ความอุดมสมบูรณ์ เจริญงอกงาม หากเลี้ยงปลาในบ่อ ควรขุดในตำแหน่งให้บ่อปลาหันหน้าเข้าบ้าน หมายถึงเมื่อมองออกนอกบ้านจะต้องเห็นบ่อปลาที่หันหน้าเข้ามาหาเรา ส่วนทิศที่เสริมพลังธาตุน้ำ กำหนดไว้ว่าธาตุไฟอยู่ทางขวามือ ธาตุน้ำอยู่ทางซ้ายมือ เมื่อหันหน้าออกนอกบ้าน ดังนั้นบ่อปลาควรอยู่ด้านขวามือของตัวบ้าน จะช่วยเรียกทรัพย์ ค้าขายมีกำไร เงินทองไหลมาเทมา คนในครอบครัวสามัคคีกัน
  • สีมงคลของปลา จริง ๆ แล้วสีของปลาคราฟมีความหมายที่เป็นมงคลทั้งหมด
                    – สีแดงสื่อถึงเรื่องเงินโดยตรง
                    – สีขาวสติปัญญาความรู้
                    – สีเหลือง การเป็นผู้นำ กระตือรือร้น
                    – สีดำ ความอุดมสมบูรณ์ มั่นคง
                    ดังนั้นการเลือกสีของปลาจึงขึ้นอยู่กับผู้เลี้ยงเป็นหลัก เช่น หากผู้เลี้ยงมีลักษณะกระตือรือร้น ตกใจง่ายอยู่แล้ว ก็ไม่ควรเลี้ยงปลาสีเหลือง เพราะจะยิ่งหนุนให้เป็นคนที่ตกใจง่ายขึ้นกว่าเดิม อยู่ไม่สุก และขาดสมาธิ หรือหากผู้เลี้ยงเป็นผู้ที่ใจร้อน วู่วาม ไม่ควรเน้นปลาสีแดง เพราะสีแดงคือธาตุไฟ ที่ถึงแม้จะสื่อถึงเรื่องการเงิน แต่ก็หมายถึงความเด็ดขาด บารมี ความน่าเกรงขามด้วย จึงพอสรุปได้ว่าผู้เลี้ยงปลาควรเลือกปลาคละสีกัน หรือให้มีความสมดุลของสีสัน ไม่เน้นไปที่สีใดสีหนึ่ง เพราะฮวงจุ้ยคือความสมดุล
  • สายพันธุ์ที่นิยมเลี้ยง ปลาคราฟมีหลากหลายสายพันธุ์ในปัจจุบัน แต่สายพันธุ์ที่นิยมเลี้ยง เพราะความเชื่อเรื่องฮวงจุ้ยได้แก่

                – ตันโจ สีแดงสลับขาว สื่อถึงความเจริญรุ่งเรือง โชคลาภ อำนาจ วาสนา

                – เบคโกะ สีดำสลับขาว มีกินมีใช้ โชคดี มีลาภ ป้องกันอาถรรพ์ และวิญญาณร้าย

                – ซันเก้ สีแดง ดำ และขาว ความเป็นสิริมงคล ป้องกันอาถรรพ์ มีโชคลาภ วาสนา

อย่างไรก็ดี ปลาคราฟมงคล ปัจจัยหลักที่จะช่วยหนุนดวงและเสริมบารมีที่แท้จริง คือการเลี้ยงดูปลาคราฟให้มีความอุดมสมบูรณ์ ยามเจ็บป่วยจะต้องรู้จักดูแลรักษา ไม่ปล่อยให้ปลาตายโดยที่ไม่ดูแล และไม่ควรปล่อยให้น้ำในบ่อปลาเน่า หรือเรียกง่าย ๆ ว่าควรเลี้ยงดูด้วยความรักและเอาใจใส่ ไม่ใช่การเลี้ยงเพื่อหวังผลด้านความร่ำรวยเพียงอย่างเดียว เพราะความรักมีพลังงานที่ดีและสว่าง ทำให้พลังชีวิตสามารถขับเคลื่อนไปได้ หากปล่อยให้ปลาคราฟขาดความรัก ขาดการดูแลเอาใจใส่ การเลี้ยงปลาเพื่อความเป็นสิริมงคลก็ไม่มีความหมายอะไร ไม่หนุนนำให้ชีวิตเจริญก้าวหน้าได้ เพราะฮวงจุ้ย คือชีวิต ความสมดุล และการเอาใจใส่