เลี้ยงปลาคราฟ

ระวัง รู้ก่อน เมื่อเลี้ยงปลาคราฟหมดปัญหาแน่นอน

การเลี้ยงปลาคราฟเป็นกิจกรรมที่สนุกและช่วยผ่อนคลายได้ดี หากใครที่กำลังสนใจจะเริ่มต้นเลี้ยงปลาคราฟจิ๋วให้เติบโตไปเป็นเจ้าปลาตัวใหญ่สีสวย จำเป็นจะต้องเตรียมอุปกรณ์ต่าง ๆ เพื่อให้เจ้าปลาน้อยของเราได้เจริญเติบโตขึ้นอย่างดี นอกจากนี้เราต้องเลือกที่อยู่ให้เหมาะสมกับน้องปลาของเราด้วย คุณภาพของน้ำนับว่าเป็นสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับการเลี้ยงปลาคราฟ เราจำเป็นต้องตรวจสอบคุณภาพน้ำที่เราจะใช้ในบ่อเลี้ยงอย่างสม่ำเสมอ

5 สิ่งควรรู้ก่อนเลี้ยงปลาคราฟ

เลี้ยงปลาคราฟ ปลาคราฟจิ๋ว
การมีบ่อเลี้ยงปลาคราฟสีสันสวยงามไว้ในบริเวณที่อยู่อาศัย ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีที่สามารถช่วยสร้างบรรยากาศภายในบ้านได้ คนส่วนมากมองว่าน้องปลาช่วยเสริมบารมีและเสริมสิริมงคลให้ผู้เลี้ยง แต่อย่างไรก็ตาม ก่อนที่เราจะนำน้องปลาที่แสนสวยมาเลี้ยงนั้น มีหลายสิ่งที่เราต้องควรรู้ก่อน เพื่อลดการเกิดความเสียหาย ทำให้น้องปลาที่นำมาเลี้ยงมีสุขภาพดีและเติบโตขึ้นได้อย่างรวดเร็ว

1.บ่อที่ใช้เลี้ยงปลา

กำหนดขนาดของบ่อเลี้ยงปลา ซึ่งพิจารณาจำนวนปลาที่เราต้องการเลี้ยงและพื้นที่ที่เรามีอยู่ โดยในบ่อควรมีพื้นที่เพียงพอสำหรับน้องปลาคราฟ บ่อที่ใช้ควรเป็นบ่อปูนซีเมนต์ เพราะสามารถที่จะใช้ดัดแปลงให้เหมือนบ่อน้ำตามธรรมชาติได้ง่าย ทำให้เกิดตะไคร่น้ำได้เร็ว โดยพวกตะไคร่น้ำก็ยังเป็นอาหารปลาได้ด้วย แต่อาจจะต้องทำความสะอาดบ่อสม่ำเสมอ

บ่อเลี้ยงควรตั้งอยู่ในบริเวณที่มีร่มเงาของต้นไม้ให้มีความร่มรื่น ไม่ควรตั้งอยู่กลางแจ้ง เพราะจะทำให้สีของปลาที่เลี้ยงไว้ซีดจางได้ แถมน้องอาจจะโตช้ากว่าปกติด้วย อีกทั้งควรติดตั้งระบบหมุนเวียนน้ำ เครื่องพ่นน้ำ เพื่อช่วยเพิ่มออกซิเจนภายในบ่อเลี้ยงให้เพียงพอกับน้องปลา

2.น้ำในบ่อเลี้ยง

น้ำเป็นสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับการเลี้ยงปลา เนื่องจากมีผลต่อสุขภาพของน้องปลาโดยตรง ควรใช้น้ำที่มีสภาพเป็นกลาง น้ำมีค่า pH ที่เหมาะสม เพราะถ้าหากใช้น้ำที่ไม่ได้คุณภาพในการเลี้ยงปลา อาจทำให้น้องปลาเป็นโรค สีและลายของน้องปลาไม่สวยงาม ที่สำคัญเราไม่ควรนำน้ำจากลำคลองมาเลี้ยงปลา เพราะน้องปลาจะเสี่ยงติดเชื้อมากยิ่งขึ้น ซึ่งอาจทำให้ปลาในบ่อรวมได้รับอันตราย

3.อาหารที่นิยมใช้

อาหารใช้เลี้ยงปลาคราฟมักจะเป็นอาหารจำพวกเนื้อสัตว์ อาหารสำเร็จรูป และ พืชผักต่าง ๆ เช่น  เนื้อปลาป่น เนื้อปู เนื้อปลาหมึก ข้าวสาลี รำละเอียด และอาหารสำเร็จรูปที่มีส่วนผสมของปลาทะเลต่าง ๆ เป็นต้น เราควรให้ปลาของเรากินอาหารในปริมาณที่เหมาะสมตามช่วงวัยของปลา เช่น ปลาคราฟจิ๋วตัวเล็กควรกินอาหารที่บดละเอียด เพื่อให้สามารถย่อยง่าย ๆ ช่วยป้องกันการขาดสารอาหารและทำให้เจ้าปลาตัวจิ๋วเจริญเติบโตได้ดี

4.ช่วงเวลาและปริมาณของการให้อาหาร

ควรให้อาหารให้พอเพียงและไม่มากเกินไป เพื่อป้องกันการเกิดการสะสมของอาหารในระบบทางเดินอาหารของปลา  ควรสร้างความเคยชินให้แก่ปลาที่เลี้ยงด้วยการให้อาหารตามเวลา ไม่ควรให้เกินวันละ 2 ครั้ง ต้องระบุเวลาให้ชัดเจน เพื่อให้น้องปลาเกิดความเคยชินและทำให้น้องปลาเชื่องด้วย

จำนวนของอาหารที่ให้นั้นต้องเหมาะสมกับจำนวนปลาในบ่อเลี้ยง เราต้องคอยเฝ้าพฤติกรรมของปลา ว่ากินอาหารเป็นอย่างไร กินเร็วหรือช้า หากกินเร็วมากก็แสดงว่าน้องปลาอาจจะอยากได้อาหารเพิ่ม เราก็สามารถให้เพิ่มได้บ้างเล็กน้อย แต่ถ้าหลังจากให้อาหารแล้วมีเศษอาหารเหลือลอยอยู่ เราต้องรีบตักขึ้นทันทีเพื่อไม่ให้น้ำในบ่อเลี้ยงเน่าเสีย

5.การเปลี่ยนน้ำในบ่อเลี้ยงและการรักษาอุณหภูมิของน้ำภายในบ่อ

หากสังเกตว่าน้ำภายในบ่อเลี้ยงเริ่มมีการเปลี่ยนเป็นสีขุ่นหรือมีสิ่งสกปรก ให้เรารีบเปลี่ยนน้ำโดยทันที ซึ่งในขณะที่ทำการเปลี่ยนน้ำออกจากบ่อแล้วประมาณ 1 ส่วน 3 ของบ่อ เราควรเพิ่มน้ำใหม่เข้าไปให้แทนที่ โดยใช้น้ำประปาที่เก็บทิ้งไว้ 2- 3 วัน ไม่ควรใช้น้ำประปาจากก๊อกที่พึ่งเปิดใหม่ เพราะยังจะมีคลอรีนอยู่ในน้ำ คลอรีนอาจส่งผลให้เกิดอันตรายต่อน้องปลาในบ่อเลี้ยงได้

 

สรุป

การเลี้ยงปลาคราฟเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ดี ช่วยสร้างบรรยากาศภายในบ้านของเรา หรือในทางฮวงจุ้ย ปลาชนิดนี้ก็ช่วยเสริมบารมี เสริมสิริมงคล แต่แน่นอนว่าในการเลี้ยงปลายังไงก็มีความซับซ้อนและปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้ ดังนั้นเราควรรู้ข้อมูลเบื้องต้นก่อนเลี้ยงปลาคราฟ เพื่อลดการเกิดอันตรายและความเสียหายต่อน้องปลาในบ่อเลี้ยงของเรา